กรุงศรีในฐานะสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบของประเทศ (D-SIB) ตระหนักถึงบทบาทและความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ทั้งในมิติการดำเนินธุรกิจและมิติด้านสังคม ทั้งในภาวะปกติและในสถานการณ์ที่มีความท้าทายเช่นวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงและขยายสู่วงกว้าง ส่งผลกระทบต่อทุกคนในสังคมทั้งระดับประเทศและระดับโลกในขณะนี้
นายพูนสิทธิ์ ว่องธวัชชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลสู่ความยั่งยืน กล่าวว่า “กรุงศรียึดมั่นการดำเนินธุรกิจด้วยจริยธรรมบนหลักการ ESG (Environmental, Social and Governance) อย่างแน่วแน่บนเส้นทางการทำงานในทุกขณะ ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 กรุงศรีได้ออกมาตรการในด้านต่างๆ นานัปการอย่างต่อเนื่องโดยคำนึงความปลอดภัยของลูกค้า ผู้มาติดต่อ และพนักงานกรุงศรีเป็นลำดับแรก ซึ่งรวมถึงมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจและผ่อนปรนภาระตลอดจนความวิตกกังวลต่างๆ ของลูกค้าให้สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ นอกจากนี้ กรุงศรียังได้ออกมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่องให้พนักงานและผู้มาติดต่อทุกคนปฏิบัติอย่างเคร่งครัด”
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่กลับพบว่าบุคลากรทางการแพทย์ยังต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเร่งด่วนจากภาคประชาสังคมอยู่ไม่น้อย จากการที่โรงพยาบาลขาดแคลนเครื่องมือป้องกันและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ดูแลและช่วยชีวิตผู้ติดเชื้อ กรุงศรีในฐานะองค์กรภาคธุรกิจเอกชน จึงได้หยิบยกมาตรการความช่วยเหลือสังคมแบบเร่งด่วนภายใต้กรอบการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม 3 หมวดหลัก เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระภาครัฐและสังคมให้ออกมาเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนขึ้น
- การสร้างคุณค่าความยั่งยืน สร้างความเข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบันผ่านการสื่อสารอย่างต่อเนื่องเพื่อให้พนักงานทราบและตระหนักถึงสถานการณ์ล่าสุดของการแพร่ระบาดโควิด-19 ตลอดจนการปลูกจิตสำนึกและสร้างอุปนิสัยความรับผิดชอบต่อสังคมโดยเริ่มต้นจากแนวทางปฏิบัติในการดูแลตนเองและคนในครอบครัวอย่างเคร่งครัดเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่กระจายโรค เช่น การงดเดินทางไปต่างประเทศ การแยกตัวเองอยู่ที่บ้าน และการเว้นระยะห่างทางสังคม นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ติดตั้งกล้องตรวจจับอุณหภูมิร่างกายที่ทางเข้าอาคาร ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในบริเวณที่มีการสัญจรและพื้นผิวที่มีการสัมผัสเป็นประจำ และติดตั้งป้ายแนะนำการปฏิบัติตัวในการใช้อาคารและลิฟท์ การจัดพื้นที่ปฏิบัติงานตามมาตรการ Social Distancing เป็นต้น
นอกจากนี้ กรุงศรีมีการจัดทำแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan: BCP) ซึ่งรวมถึงการทำงานจากศูนย์ปฏิบัติงานสำรอง การทำงานที่บ้าน (Work from Home) ซึ่งปัจจุบันพนักงานกว่า 50% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดได้ทำงานที่บ้าน การหยุดให้บริการในบางธุรกิจเป็นการชั่วคราวและการแนะนำให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์แทน
- การตอบแทนคืนสู่สังคม จัดตั้งโครงการ “รวมใจสู้ภัยโควิด-19” เชิญชวนพนักงานบริจาคหน้ากาก N95 แก่โรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าในการดูแลและรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย
- การดูแล การสนับสนุนด้านเงินช่วยเหลือ มุ่งเน้นการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือสังคมในกรณีต่างๆ การบริจาคเงินช่วยเหลือแก่องค์กรสาธารณประโยชน์ โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ กรุงศรีได้ร่วมมือกับภาคพันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้าและพนักงานในการให้ความช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย แม้ทำงานอยู่ที่บ้านก็สามารถร่วมบริจาคได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ในโครงการ “รวมใจสู้ภัยโควิด-19” ให้แก่ 3 โรงพยาบาลที่ยังต้องการความช่วยเหลือ ได้แก่
- โรงพยาบาลศิริราช ชื่อบัญชี “ศิริราชมูลนิธิ”
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาอรุณอมรินทร์ เลขที่บัญชี 157-0-01851-7
- โรงพยาบาลราชวิถี ชื่อบัญชี “บัญชีเงินบริจาคของโรงพยาบาลราชวิถี”
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสนามเป้า เลขที่บัญชี 146-0-02540-4
- โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ชื่อบัญชี “กองทุนโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี”
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาถนนมิตรภาพ – แยกปักธงชัย เลขที่บัญชี 357-0-00818-1
“ในฐานะสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบของประเทศ การดำเนินธุรกิจของกรุงศรีจึงครอบคลุมเป้าหมายที่มากเกินกว่าเพียงมิติด้านเศรษฐกิจและการเงิน หากยังรวมไปถึงมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล ผ่านหลักการดำเนินธุรกิจธนาคารอย่างยั่งยืน (Sustainable Banking) โครงการ สำหรับ โครงการ ‘รวมใจสู้ภัยโควิด-19’ นี้ กรุงศรีได้ดำเนินการคู่ขนานกับมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ทุกหน่วยงานของกรุงศรี กรุ๊ป กำลังดำเนินการอย่างเข้มข้น เพื่อให้ทุกคนสามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน” นายพูนสิทธิ์ กล่าวในที่สุด