เปิดแนวคิด ปลาวาฬ-วรสิทธิ อิสสระ นักธุรกิจหนุ่มไฮโซ ผู้บริหารโรงแรมศรีพันวา กับการเปิดประเทศ “ภูเก็ต Sandbox” ความหวังใหม่ของชาวภูเก็ต

หลังจากทั่วโลกได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 นานกว่า 1 ปี ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนัก สืบเนื่องจากการปิดประเทศและมาตรการเข้า- ออก เป็นไปอย่างเข้มงวดในช่วงที่ผ่านมา เพื่อป้องกันโรคระบาดโควิด -19 โครงการภูเก็ต แซนบ็อกซ์ (Phuket Sandbox)  จึงเป็นโครงการโมเดลของการเปิดประเทศอีกครั้ง ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) แผนเปิดเกาะเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวของรัฐบาล ที่เริ่มต้นในวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมาเป็นการทดลองกับจังหวัดภูเก็ตเป็นที่แรก เพื่อดูว่าขั้นตอน กฎระเบียบรวมถึงมาตรการต่างๆ ที่นำมาใช้จะสามารถทำให้ชาวต่างชาติมั่นใจอยากกลับมาเที่ยวภูเก็ตและเป็นการเชื่อมั่นในประเทศไทยต่อการควบคุมโรคระบาด 

โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต โดยการบริหารงานของ นักธุรกิจหนุ่มไฮโซ ปลาวาฬ-วรสิทธิ อิสสระ ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวเช่นกัน มาดูแนวคิดและการปรับแผนรับรองกับการเปิดประเทศ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์  กับความหวังที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่วิกฤตโควิด-19 ระบาดหลังจากที่ล๊อคดาวน์มาแรมปี

การปรับแผน เรื่องการ ดูแลลูกค้าในช่วง  Phuket sandbox  อย่างไร
“ผมคุ้นเคยมากตอนโรงแรมศรีพันวา ช่วงรับทำประเดิมโครงการนำร่อง วิลล่า ควอรันทีน  เป็นการ quarantine business Model เราทำตอนนั้นเดือน 3 โดยผู้เดินทางมาต้องเป็น CEO มาจากต่างประเทศและต้องเป็นผู้ฉีดวัคซีนครบแล้วและต้องตรวจเช็คต้องมีผลตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ก่อน 3 วัน และต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 จึงจะเข้าหลักเกณฑ์ ตามมาตรฐานที่ผ่านการตรวจจากกระทรวงสาธารณสุขและต้องเป็นประเทศที่เรารับบริการเท่านั้น ยกเว้นบางประเทศที่เราไม่ได้รับบริการ ซึ่งมีหลายประเทศมาก”

ความคาดการณ์ของ  Phuket Sandbox ในแนวคิดของคุณปลาวาฬจะไปทิศทางไหน
ผมเห็นไฟล์ที่เข้ามาทีละ 5-6 ไฟล์ melting pot ผมว่าไม่แน่อาจจะมี โพสต์เว็ป  ใน  ภูเก็ตก็ได้ แต่คนที่มีวัคซีนแล้วนี่คือข้อดี  เพราะถ้าโพสต์เว็ปอีก  เพราะคนอาจจะไม่รู้เลยแต่เราฉีดวัคซีนป้องกันไปแล้ว เหตุการณ์ก็จะเหมือนกับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1 N1 ที่เราฉีดป้องกันไปแล้ว ที่เป็นไข้หวัดโรคติดต่อระหว่างคนสู่คน “ผมพร้อมที่จะทดลอง  Sandbox ซึ่งเป็นความหวังของชาวภูเก็ต  ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ก็อาจดีกว่าเราไม่ทำอะไรเลย”

ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ : ความหวังที่มาพร้อมกับความกังวลใจของคนในพื้นที่ภูเก็ตคิดอย่างไร
ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ อย่างแรกความหวังของคนทั้งประเทศ ประเทศต้องการ การท่องเที่ยว (Tourism)  อันดับ 1 รองลงมาคือ GDP (Gross Domestic Product)  เราต้องการนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทย ภูเก็ตถือว่าเป็นการอุ่นเครื่อง (warm ) เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝนคนเที่ยวน้อย คนไทยจะชอบเที่ยว คนจีนชอบเที่ยว ซึ่งคนจีนเที่ยวยังไม่ได้มาเที่ยว ถือเป็นการวอร์มเปิดประเทศก่อน

การบริหารองค์กรเป็นแบบไหน
ถือว่าเป็นโอกาสที่เราก็รีโนเวท ทำการเทรนด์นิ่งพนักงาน พร้อมรีโนเวทโรงแรม เรามีอะไรทำตลอด “แต่ถ้าคุณไม่ทำช่วงวิกฤตถือว่าคุณพลาดแล้ว เราต้องหาวิกฤตให้เป็นโอกาสให้ได้” และการปรับปรุงและการสร้างเพิ่ม ห้องวิลล่าก็เพิ่มมากขึ้น

สร้างขวัญและกำลังใจพนักงานแบบไหน
ด้วย policy  ของบริษัทไม่ได้เอาคนออก  พร้อมมีสวัสดิการของประกันสังคมเข้ามาช่วยบางคน เราบอร์ดคลาส (Broadcast) ในกลุ่มว่าเราพยายามเต็มที่ ซึ่งพนักงานเราก็รับรู้ได้ว่า เศรษฐกิจไม่ดี เค้าก็ต้องหาทางรอด  ไปขายของบ้าง  ไปช่วยที่บ้านบ้าง ไปอยู่กับลูกๆ ช่วงปิดเทอมบ้าง พนักงานเราเห็นถึงเศรษฐกิจโลกไม่ดี และเข้าใจได้ทางเรามีพนักงานทั้งหมด 200 คน

ตอนช่วงระหว่างล็อกดาวน์เรายังมีพนักงานบางส่วนอีก 100 คน มาทำงาน อย่างเช่น คนสวน  ฝ่ายบริหาร มีคนเข้าออก เพื่อมาพัฒนาภายในโรงแรมเรามีอบรมสอนพนักงานในการกู้-ผ่อนบ้าน อย่าจ่ายดอกเพียงแต่อย่างเดียว ให้จ่ายเงินต้นที่มีการกู้ยืมด้วย เพื่อแบ่งเบาภาระในภายหน้า  เรามีคอร์สให้พนักงานสอนวิธีไปคุยกับธนาคารเพื่อผ่อนปรนหรือปรับลด-ดอกเบี้ยบ้านในช่วงวิกฤตครั้งนี้

คิดว่าอนาคตของโรงแรมศรีพันวาจะเป็นอย่างไรหลังจากได้เปิดประเทศแล้ว
ผมโชคดีมากเพราะแขกเรา การเดินทางมันเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้ที่ภูเก็ตนี้ของถูกขึ้นเยอะ  เราไทยแบรนด์และ ไทยลักซ์ชัวรี่ แบรนด์ ถือว่าสู้ได้ ผมสร้างวิลล่าที่มีขนาดใหญ่มาก มักจะมีคำ complain ว่า เราสร้างวิลล่าที่ใหญ่เกินไป ซึ่งผมทำอยู่แล้ว ผมสร้างใหญ่กว่าคนอื่น 50-60 ตารางเมตร ท็อป ลักซ์ชัวรี่  (Top LUXURY) ที่ใหญ่กว่าคนอื่น เรามีร้านอาหาร 7 ร้าน แต่ละร้านแยกกัน ถ้ามี 100 คนไปทานร้านอื่น  ถ้าอีกร้านหนึ่งเต็มร้านอื่นก็จะว่างและมีที่เหลือ

ธุรกิจหลากหลายกำลังประสบปัญหา คุณปลาวาฬก้าวผ่านวิกฤตมาได้อย่างไร
โอ้ว…ก็เหนื่อยครับ  บริหารคนและ เราเองไม่มีหนี้สิน เราเลยสบายขึ้น และสร้างเพิ่มมากขึ้น แสดงว่า เฟ็คคิลิตี่ facility สองปีนี้สามารถตั้งตัวใหม่ได้

แนวคิดช่วงโควิด
ตอนนี้ค่อนข้างยาก เพราะมันเกิดขึ้นจนคิดไม่ออกแล้ว  ผมดูจาก Facebook  story, IG  ดูอเมริกาจากยุโรปว่านอมอล ( normal) แต่มีการเสียชีวิตเยอะมาก เกือบห้าแสนคน  ถ้าเกิดคนไทยเสียชีวิตสัก หนึ่งแสนคนเราก็จะมั่วแต่เศร้ากันอยู่ เพราะเราคนไทย มีจิตใต้สำนึกที่ดี  ทางอเมริกาลืมไปแล้วว่าอีกห้าแสน คนที่เสียชีวิตและยังมีอีกสามถึงสี่ล้านคนที่ยังเศร้าเรื่องนี้กันอยู่ แต่ ฟอร์เก็ต (forget)  เร็ว moving on fast ไม่ได้ ผมไม่รู้เป็นอย่างไร เพราะเห็นอเมริกายังปาร์ตี้ ยังเอ็นจอยกันอยู่แล้วคนที่เสียชีวิตละ ช่างมันเหรอ! อย่างน้อยจะต้องมี คำภาษาอังกฤษเค้าเรียกว่า มอร์นนิ่งพีเหรียด ( mourning period) เป็นช่วงที่เราควรจะเศร้ากันหน่อย

จุดเริ่มต้นที่ดี

เรามีวัคซีน 98%  คนที่มาก็จะต้องได้รับฉีดวัคซีนมาแล้ว อาจจะมีการติดเชื้ออีกครั้ง ซึ่งอาจจะไม่แรง คล้าย ๆ เหมือนคนเราไปข้างนอกแล้วติดไข้หวัด ระลอกที่ 5 อาจจะไม่ซีเรียสเท่ากับตอนนี้ เพราะทุกคนมีวัคซีนหมดแล้ว เพียงแค่อาจจะต้องเทสต์ ว่าวัคซีนมีภูมิขึ้นดีอยู่ไหม

อัพเดทจากอาการป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุ

ตอนนี้อาการ 100% แล้วครับ เหลือแค่ปลายนิ้วมือชาอาจจะรอสมองสั่งการอีกนิดหนึ่ง ที่อาจจะต้องรออาการกลับมาเอง ตอนนี้ผมก็ออกกำลังกายเยอะมากและเดินเข้ามาบริษัท พนักงาน เกือบ 200 คนกลับมาเหมือนเดิม ผมเดินเขามาแบบเต็มที่ ทำงานได้ และมาเป็นกำลังใจให้ทีม “เพราะผมไม่ยอมแพ้ครับ”

ผมสบายใจมากที่ภูเก็ตเปิดมาต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งเพราะผมเองเคยฉีดวัคซีน H1 N1  เคยฉีดไข้หวัดเหลือง ผมฉีดทุกอย่างแล้ว “วัคซีนคือเข็มฉีดยาเข็มเดียวของผม” ผมอายุ 40 ผมฉีดมาไม่รู้กี่เข็มผมคิดว่าฉีดก็ได้ดีกว่าไม่ได้ฉีดหรือไม่มีภูมิคุ้มกันอะไรเลย